การนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์จะทำในช่วงเย็นของวันสุกดิบ ซึ่งเป็นวันก่อนวันแต่งงานหนึ่งวัน และในวันแต่งงานจะมีเฉพาะการตักบาตรร่วมกันในตอนเช้า แต่ในปัจจุบันนิยมทำพิธีกันในช่วงเช้าวันเดียวกัน เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและสะดวกมากขึ้นสำหรับคู่บ่าวสาว โดยการลำดับขั้นตอนพิธีก่อนหลังนั้น ขึ้นอยู่กับธรรมเนียนนิยมในแต่ละพื้นที่ ที่มีทั้งการแห่ขันหมากก่อนทำพิธีสงฆ์ หรือที่ทำพิธีสงฆ์ก่อนการแห่ขันหมาก

การนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ที่บ้านหรือที่สถานที่จัดงาน นิยมทำพิธีในช่วงเช้าให้เรียบร้อยก่อนพิธีแห่ขันหมาก โดยในงานที่เป็นงานมงคลอย่างงานแต่งงานเช่นนี้จะนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป เพื่อประกอบพิธี และเมื่อนับรวมพระพุทธรูปที่เป็นองค์พระประธานด้วยแล้วจะเป็นจำนวนคู่ คือ 10 รูป เพราะถือเคล็ดที่เลข 9 หรือ "เก้า" ที่เป็นคำพ้องสียงเหมือนกับคำว่า "ก้าว" ที่หมายถึงก้าวหน้า และหลังจากเสร็จพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์แล้วจะเป็นการตักบาตรร่วมกัน หรือถวายภัตตาหาร ซึ่งสามารถถวายพระและเณรได้ทั้งวัด ไม่จำกัดว่าต้องเป็นพระสงฆ์ที่มาประกอบพิธีเท่านั้น

นอกจากนี้ ใน "พิธีสงฆ์" ยังต้องตระเตรียมเครื่องใช้ในพิธีให้ครบถ้วนเรียบร้อย อย่างดอกไม้ ธูป เทียน อาสานะหรือที่รองนั่งสำหรับพระสงฆ์

โต๊ะหมู่บูชาสำหรับจัดวางพระพุทธรูปประธาน ด้ายสายสิญจน์ที่ปลายด้านเริ่มต้นต้องพันวนไว้กับฐานพระพุทธรูป 3 รอบ โดยพันวนเป็นทักษิณาวรรต คือ เวียนจากซ้ายไปขวา แล้วหาพานวางด้ายสายสิญจน์ที่เหลือไว้ใกล้ ๆ เพื่อให้พระสงฆ์หยิบใช้ประกอบการเจริญพระพุทธมนต์ได้อย่างสะดวกต่อไป

ใกล้กับพานวางด้ายสายสิญจน์จะเป็นที่ตั้งของบาตรน้ำมนต์ ซึ่งอยู่ติดกับที่นั่งของพระสงฆ์ที่เป็นประธาน
ข้าง ๆ บาตรน้ำมนต์จะวางเทียนสีขาว 1 เล่ม หนัก 1 บาท มักวางรวมไว้กับพานที่ใส่ด้ายสายสิญจน์ เพื่อใช้ในการทำน้ำมนต์ นอกจากนั้น ที่ขาดไม่ได้ยังมีมงคลแฝด และแป้งประแจะหรือแป้งกระแจะ เรียกแบบเข้าใจง่าย ๆ ว่าแป้งเจิมหน้าผากคู่บ่าวสาวไว้เข้าพิธีด้วย

นวันงานเมื่อพระสงฆ์เดินทางมาถึง เจ้าภาพจะนิมนต์พระสงฆ์มายังที่นั่งที่จัดเตรียมไว้ จัดเครื่องดื่มหรือน้ำปานะมาถวายให้เรียบร้อย จากนั้นจึงเริ่มพิธีโดยให้คู่บ่าวสาวนั่งประจำที่ในการนี้เจ้าบ่าวต้องนั่งด้านขวาของเจ้าสาว ทั้งคู่ร่วมกันจุดธูป เทียน บูชาพระรัตนตรัย เมื่อเสร็จแล้วผู้ดำเนินพิธีหรือจำพิธีจะกล่าวนำบูชาพระรัตนตรัย คู่บ่าวสาวกล่าวตาม

จากนั้นเจ้าพิธีจะอาราธนาพระปริตร หมายถึงการขอให้พระสงฆ์เจริญสูตรที่มงคล เพื่อกำจัดทุกข์และโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ไปจนถึงบทมงคลสูตร เจ้าพิธีจะจุดเทียนขนวนสำหรับให้คู่บ่าวสาวจุดเทียนน้ำมนต์ เป็นการขอให้พระสงฆ์ทำน้ำพระพุทธมนต์ น้ำมนต์ที่เกิดจากการสวดพระปริตรนี้ถือว่าเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ใช้ในกาลมงคลต่อ ๆ ไปได้
การตักบาตร ที่คู่บ่าวสาวจะต้องสำรวมกายใจตักบาตรร่วมกัน หรือหากเป็นช่วงสายจะเป็นการถวายภัตตาหารเพล โดยเริ่มจากถวายอาหารแแด่พระพุทธ แล้วจึงประเคนอาหารคาวหวานแด่พระสงฆ์ หรืออาจจัดเป็นปิ่นโต มีอาหารคาวหวาน ถวายพร้อมธูป เทียนปัจจัย เครื่องไทยธรรมได้เช่นกัน

หลังจากถวายของ พระสงฆ์อนุโมทนา และขึ้นบทสวด "ยะถาสัพพี..." คู่บ่าวสาวจะกรวดน้ำ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ให้กับเทพยดา เจ้ากรรมนายเวร บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ

จากนั้นจะถึงพิธีในขั้นสุดท้าย พระสงฆ์จะเจริญชัยมงคลคาถา พร้อมประพรมน้ำมนต์ให้ เพื่อเป็นสิริมงคลจึงเป็นอันเสร็จพิธี
